ยกกระชับ อัพผิวแน่น ด้วยเครื่อง 3 ตัวรุ่น TOP ตัวไหนเหมาะกับเรา ?
ยกกระชับ อัพผิวแน่น ด้วยเครื่อง 3 ตัวรุ่น TOP ตัวไหนเหมาะกับเรา ?
เปรียบเทียบ 3 โปรแกรมดัง ของสุภากาญจน์คลินิก ยกกระชับแบบไม่พึ่งมีด ไม่ง้อเข็ม
Comparing Thermage, S+ Oligio, and Ultherapy:
Which Non-Surgical Facelift is Right for You?
หลังจากที่เราเปรียบเทียบโปรแกรมน้องเล็กไปก่อนหน้านี้
ในส่วนนี้ จะเทียบโปรแกรม S+ Oligio Elite Firm กับเครื่องยกกระชับรุ่น TOP กันต่อค่ะ -Thermage
-Ultherapy
-S+ Oligio
Thermage
กลไกทำงาน How It Works:
Thermage เทอมาจ เป็นการใช้คลื่นวิทยุ radiofrequency (RF) ส่งพลังงานไปสู่ชั้นผิว.
กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ให้ผิวชั้นบนเรียบเนียน แน่นขึ้น โดยจะเห็นผลทันทีและมีการกระตุ้นคอลลาเจนต่อเนื่อง
ข้อดี Benefits:
– Non-Invasive: ไม่ใช้เข็ม ไม่มีบาดแผล เจ็บน้อย
– Single Session: ทำเพียงครั้งเดียว ไม่ต้องทำบ่อยๆ
– No Downtime: ไม่ต้องพักฟื้น สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ปกติ
– Long-Lasting Effects: ผลลัพธ์อยู่ได้ยาวนาน ทำแต่ละครั้ง ห่างกันได้ถึง 1-2ปี
เหมาะสำหรับ Best For:
– เคสที่มีผิวหย่อนคล้อยระดับปานกลาง หรือต้องการดูแลผิวประจำปี
– คนที่ไม่มีเวลาดูแลผิวบ่อยๆ หรือ อยากหาเครื่องที่ทำปีละครั้ง
– คนที่กังวลรอยยับที่ผิว ที่เกิดจากคุณภาพผิว ไม่ใช่รอยยับเมื่อขยับกล้ามเนื้อ
S+ Oligio Elite Firm
กลไกทำงาน How It Works:
S+ Oligio กลไกคล้ายกับเทอมาจ โดยใช้พลังงานคลื่นวิทยุในการรักษา โดยออกแบบการรักษาเพื่อลดผิวหย่อนคล้อย(sagging skin) ให้ผิวแน่นขึ้น ลดริ้วรอยตื้นๆที่ไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยการฉีดโบทอกซ์ (fine lines ) รวมถึง กระตุ้นให้ผิวอ่อนเยาว์
ข้อดี Benefits:
– Painless & Non-Invasive: ไม่เจ็บ มีการศึกษาเรื่องปลอดภัย และ ได้ผลลัพธ์ที่ดี .
– Minimal Downtime: ไม่ต้องดูแลตัวเองเป็นพิเศษ สามารถทำกิจวัตรประจำวัน หรือ ออกงานต่อได้เลย
– Natural-Looking Results: ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติ
– Versatility: เห็นผลชัดเจนเรื่องเก็บแก้ม เหนียง ลดริ้วรอยรอบดวงตา คอ หรือ รอยพับบนผิว
เหมาะสำหรับ Best For:
– คนที่ยังไม่มีปัญหาผิว ต้องการคงความอ่อนเยาว์ หรือ มีปัญหาผิวระดับน้อย ( early signs of aging and skin laxity)
– คนที่ต้องใช้หน้าออกงานทันที ไม่มีเวลาพักฟื้น หรือ มองหายกกระชับที่เจ็บน้อย เห็นผลชัด (non-invasive treatment with minimal recovery time)
– คนที่ต้องการผลลัพธ์เป็นธรรมชาติ (natural, refreshed look)
Ultherapy
กลไกทำงาน How It Works:
Ultherapy เป็นการรักษาด้วยพลังงานคลื่นเสียง หรือ focused ultrasound เพื่อกระชับผิวให้แน่นขึ้น และ ยกกระชับ โดยการรักษาจะกระตุ้นชั้นผิวที่เต็มไปด้วยคอลลาเจนให้มีการสร้างคอลลาเจนมากขึ้น รวมถึงชั้นที่ใช้ในการผ่าตัดดึงหน้า มีความแม่นยำสูง( precise depths) ช่วยให้ผิวหน้ายกกระชับ กรอบหน้าชัด และผิวแน่นขึ้น รวมถึงกระตุ้นคอลลาเจนได้ยาวนาน ไม่ต้องทำบ่อยๆ
ข้อดี Benefits:
– Non-Invasive: ไม่ต้องผ่าตัด ไม่พึ่งเข็ม.
– Precise Targeting: เป็นเครื่องมือเดียวที่มีจอ ระบุความลึกของชั้นผิวของคนไข้แต่ละคน ให้การรักษาได้อย่างแม่นยำ
– No Downtime: ไม่ต้องพักฟื้น เจ็บน้อย
– Long-Lasting Effects: ผลลัพธ์ยาวนาน ทำได้ปีละครั้ง หรือตามปัญหาผิวของแต่ละเคส
เหมาะสำหรับ Best For:
– คนที่ต้องการคงความอ่อนเยาว์ คืนความอ่อนวัย แก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อยไม่กระชับ
– คนที่ต้องการมองหาเครื่องยกกระชับที่ไม่ต้องลุ้นผลลัพธ์
– คนที่กลัวเข็ม ไม่มีเวลาพักฟื้น
– คนที่ไม่มีเวลา อยากยกกระชับประจำปี ที่ไม่ต้องทำบ่อยๆ
– คนที่ไม่อยากมาผ่าตัดดึงหน้า ตอนอายุมากแล้ว
– คนที่มีปัญหา รอบดวงตา ตาตก หรือ ร่องแก้ม รวมถึง ต้องการให้คุณภาพของผิวดีขึ้น
เปรียบเทียบ เทคโนโลยี
Technology:
– Thermage และ S+ Oligio ทั้งสองใช้พลังงานคลื่นวิทยุ (RF) แต่ Ultherapyใช้พลังงานอัลตราซาวน์
– Thermage และ S+ Oligio เป็นหลักการรักษาเดียวกัน แตกต่างที่ ระดับพลังงาน ความลึก และ วิธีการส่งพลังงานสู่ชั้นผิว
– Ultherapy แม่นยำที่สุด เพราะมีจอ monitor
เปรียบเทียบผลลัพธ์
Results:
– ทั้ง 3 โปรแกรม กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และ ช่วยให้ผิวแน่น ยกกระชับได้อย่างดี
– Thermage จะค่อยๆเห็นผลการรักษา โดยร่างกายจะกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนยาวนาน
– S+ Oligio ยกผิวแน่นฟู เก็บกรอบหน้าชัด ลดไขมันส่วนเกินให้กรอบหน้าได้รูป ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติ
– Ultherapy ผลลัพธ์ยกกระชับสุดผัง แถมได้งานผิว เพราะคุณหมอส้มจะดูแลด้วยหัวที่มีความลึกหลายระดับ ช่วยทั้งผิวดีและผิวแน่น
แต่ละโปรแกรม เหมาะกับ ปัญหาผิวตำแหน่งไหน
Treatment Areas:
– Thermage และ S+ Oligio เน้นผิวหน้า กรอบหน้า คอเหี่ยว
– Ultherapy เน้นยกกระชับทั่วใบหน้าและลำคอ มีงานวิจัยเรื่องการ ยกคิ้ว เปิดตาให้โตขึ้น รอบดวงตา ร่องแก้ม ช่วยแก้ปัญหาผิวแน่น ลำคอ รวมถึงเนินอก
เปรียบเทียบ ระดับการพักฟื้น
Downtime:
แต่ละโปรแกรมพักฟื้นนานไหม
– ทั้งสามโปรแกรม ไม่ต้องพักฟื้น อาจมีเพียงแดงเรื่อๆ ได้เล็กน้อย
หรือ ในบางเคสที่ไม่เคยทำมาก่อน อาจรู้สึกระบม ปวดได้เล็กน้อย พักฟื้นไม่นาน ใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
เปรียบเทียบระดับความเจ็บ
Pain Score
Pain score : Thermage > Ulthera > Oligio(มีระบบ Cooling ช่วยให้สบายผิวที่สุด) พิเศษ! ทั้งสามโปรแกรม ที่สุภากาญจน์คลินิกมีเทคนิคช่วยให้คุณเจ็บน้อยกว่า
อยู่ได้นานแค่ไหน ต้องทำซ้ำเมื่อไร Longevity:
– Thermage ทำซ้ำได้ทุก 1 ปี
– S+ Oligio ทำซ้ำได้ทุก 6 เดือน – 1 ปี ขึ้นกับสภาพผิวและความกังวล- Ultherapy ทำซ้ำได้ทุก 1-2 ปี
Longevity: Ultherapy = Thermage >= Oligo*
*ขึ้นกับจำนวน Shots/lines ในการรักษา สถาพผิว และการตอบสนองของแต่ละบุคคล
โดยคุณหมอจะช่วยประเมินและวางแผนการรักษาเคสต่อเคส
Oligio (Monopolar RF) กับ Ultraformer III (MMFU) และ ULTHERAPY ต่างกันอย่างไร
Oligio เป็นคลื่นความถี่วิทยุพลังงานสูง ลงลึก 4.3 มม. ได้ตั้งแต่ชั้นผิวบนสุดจนถึงชั้นไขมัน หรืออาจจะถึงชั้น SMAS บนๆ ข้อดีคือกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนอีลาสตินได้ทุกชั้นของผิวตั้งแต่ชั้นหนังแท้ลงมาถึงชั้นไขมัน
ULTHERAPY, Ultraformer III เป็นคลื่นพลังงานสูง (High Intensity Focused Ultrasound) ที่ทำให้เกิดการตัดกันของพลังงานให้เป็นจุดเล็กๆ ลงลึกถึงชั้น SMAS ซึ่งเป็นชั้นที่แพทย์ศัลยกรรมผ่าตัดใช้ในการผ่าตัดดึงหน้า การที่ทำให้ SMAS หดตัว จึงส่งผลให้ใบหน้ากระชับ ยกขึ้น แน่นขึ้น ซึ่ง ULTHERAPY และ Ultraformer III จะมีความแตกต่างกันในส่วนของค่าพลังงาน ความลึก และความแม่นยำ
มาทำความรู้จัก S+ Oligio Elite Firm Program’s unique Painless UP Technology
โปรแกรมยกกระชับนวัตกรรมใหม่ ไขมันหาย เจ็บน้อย ยกนาน
Oligio คือเทคโนโลยีความถี่ของคลื่นวิทยุ (Radio Frequency) ที่เป็นแบบขั้วเดียว (Monopolar RF) ที่เจาะจงตำแหน่ง ทำให้เกิดความร้อนลึก (Deep Heating) และอุณหภูมิสูงเพียงพอสามารถลงได้ถึงชั้นหนังแท้ (Dermis) จึงทำให้เส้นใยคอลลาเจนและอีลาสตินที่หย่อนคล้อยหดตัว และทำให้ไม่หย่อนคล้อย โดยไม่ต้องผ่าตัด อันนี้จึงเป็นข้อแตกต่างระหว่าง Oligio และ RF ทั่วๆไป และการที่ความร้อนสามารถลงลึกจนถึงชั้นไขมันใต้ผิวหนัง จึงส่งผลให้เซลส์ไขมันบริเวณนั้นลดลงได้ด้วย จึงเหมาะกับคนที่มีเหนียง มีไขมันที่หน้า
เทคโนโลยี
Radiofrequency (RF): เป็นเทคโนโลยีที่ใช้พลังงานคลื่นความถี่วิทยุ (RF) เพื่อให้ความร้อนแก่ผิวหนังโดยมีจุดประสงค์เพื่อกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนอิลาสตินและไฮยาลูโรนิกที่ผิวหนังเพื่อลดการเกิดริ้วรอยและผิวหนังที่หย่อนคล้อย ซึ่งทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่เนื้อเยื่อ ส่งผลให้มีการผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่
กลไกการทำงาน
เกิดการสั่นของกระแสไฟฟ้า ทำให้เกิดการชนกันระหว่างโมเลกุลที่มีประจุและไอออนซึ่งจะเปลี่ยนเป็นความร้อน สร้างความร้อนลึกที่อุณหภูมิ 40-60 °C บนเนื้อเยื่อ โดยส่งกระแสความถี่สูงที่ 6.78MHz ไปที่เซลส์ผิวเพื่อให้เกิดการยกกระชับผิว
S+ Oligio Elite Firm Program คืออะไร
โปรแกรมยกระดับ นวัตกรรมกระชับด้วยนวัตกรรมใหม่
เจ็บน้อย ไม่ต้องพักฟื้น เห็นผลไว อยู่ได้นาน
ด้วยเครื่อง Oligio ซึ่งเป็นนวัตกรรมยกกระชับผิวชั้นบน ด้วยคลื่นไฟฟ้าวิทยุ มาตรฐานยกกระชับ ที่ได้รับการรับรอง US FDA ร่วมกับ Exclusive Add-Ons ที่คุณหมอส้มพิถีพิถัน วางแผนการรักษาตามปัญหาผิวของแต่ละเคสโดยเฉพาะ เพื่อผลการรักษาที่เห็นผลชัดเจน ตอบโจทย์ปัญหาผิวที่คุณกังวล ได้อย่างตรงจุด
S+ Oligio Elite Firm Programช่วยเรื่องอะไรบ้าง ?
– กระชับรูขุมขน ผิวแน่นขึ้น
– ปรับผิวเรียบเนียน
– ลดเลือนริ้วรอย ผิวอ่อนเยาว์
– สลายไขมันส่วนเกิน ปรับรูปหน้าเรียว
– กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และอิลาสติน ให้ผิวแข็งแรงขึ้น
– ลงลึกถึงชั้นไขมัน
Resolve wrinkles
elasticity at once with a lifting procedure that fits your face
S+ Oligio Elite Firm Program
S+ Oligio’s unique Painless UP Technology
– Fast Treatment Time
– Wrinkle and Elasticity Improvement
– Safe Procedure
– Immediate Return to Daily Life
S+ Oligio Elite Firm Program’s unique Painless UP Technology
Anesthesia-Free procedure
เพิ่มความปลอดภัยด้วยระบบวัดอุณหภูมิผิวระหว่างทำการรักษา และตรวจแรงต้านผิวก่อนการรักษา
Minimize Pain
เจ็บน้อยกว่า และไม่ต้องพักฟื้นด้วยระบบทำความเย็นกับระบบสั่นทำให้สามารถลดความเจ็บ
รู้สึกสบายขณะทำการรักษา
Faster Treatment
ประหยัดเวลาในการรักษา ใช้เวลาประมาณ 20-30 นาที
Long-lasting Effect
ผลการรักษาที่ยาวนาน กระตุ้นคอลลาเจน และอิลาสตินใหม่ใต้ชั้นผิว ทำให้ผลลัพธ์การรักษายาวนานขึ้น
S+ Oligio Elite Firm Program, unique Painless UP Technology
ทำส่วนไหนได้บ้าง ?
รอบดวงตา ทั่วหน้า ลำคอ และใต้คาง
เหมาะกับใคร
- คนที่ต้องการยกกระชับใบหน้าที่หย่อยคล้อย กรอบหน้าไม่ชัด
- ผู้ที่มีริ้วร้อยร่องแก้มลึก
- คนที่ใบหน้ามีเนื้อแก้มเยอะหรือมีเหนียง
- คนที่ต้องการยกกระชับเปลือกตา เปลือกตาเริ่มตก หนังตาตก ต้องการยกคิ้ว
- คนที่มุมปากเริ่มตก มีร่องหรือริ้วรอยในระยะเริ่มต้น
- คนที่ต้องการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนให้ผิวหน้า
ผลลัพธ์จากการทำ Oligio
- เห็นผลการยกกระชับทันที เนื่องจากคอลลาเจนหดตัว ประมาณ 20-30% หลังจากนั้นสภาพผิวจะดีขึ้น เนื่องจากเกิดการสร้างคอลลาเจนใหม่ เห็นผลเต็มที่ 3-6 เดือนหลังจากการรักษา
- อยู่ได้นาน 6 เดือน – 1 ปี ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของคนไข้
- แนะนำให้ทำต่อเนื่องปีละครั้ง จะช่วยฟื้นฟูผิวเดิมได้ดียิ่งขึ้น และทำให้เกิดการสร้างคอลลาเจนใหม่มากขึ้นเรื่อยๆ
ข้อห้าม
- บุคคลที่มีการใส่เครื่องมือแพทย์ฝังไว้ในร่างกาย เช่น เครื่องกระตุ้นหัวใจด้วยไฟฟ้า ICD มีการฝังอุปกรณ์อิเล็คทรอนิกส์ภายในร่างกาย
- บุคคลที่มี Bio absorbable รากฟันเทียม
- บุคคลที่มีโรคผิวหนังบางชนิดที่เกี่ยวกับกระบวนการรักษาบาดแผล
- มีการติดเชื้อในบริเวณที่จะทำการรักษา
- บุคคลที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน โรคลมบ้าหมู โรคเกิดจากการติดเชื้อไวรัสทำให้มีภาวะเลือดออก หรือความพิการของกลไกของระบบเลือด
- หญิงตั้งครรภ์ / หญิงให้นมบุตร
ข้อควรระวังในการรักษา
- บุคคลที่เป็นโรคแพ้ภูมิตนเอง
- บุคคลที่ใช้ยาต้านการอักเสบเรื้อรัง
- บุคคลมีรอยสักใหม่ในบริเวณที่ทำการรักษา
- บุคคลที่เป็นคีลอยด์
- บุคคลที่มีการติดเชื้อไวรัสเริม
- บุคคลที่เคยฉีดโบท็อกซ์หรือฟิลเลอร์ภายใน 4 สัปดาห์ที่ผ่านมา
- บุคคลที่ได้รับการปลูกถ่ายไขมันหรือปลูกถ่ายผิวหนังบริเวณที่ทำการรักษาภายใน 6 เดือนที่ผ่านมา
S+ Oligio Elite Firm Program ที่ สุภากาญจน์คลินิก แตกต่างจากโปรแกรมยกกระชับ/Oligio ทั่วไปอย่างไร
Personalized Treatment Plans With Advanced Technology
Comfort and Care
Exclusive Add-Ons, Holistic Approach by Certified Dermatologists
ดูแลด้วยเทคนิคเฉพาะของคุณหมอส้ม คุณหมอจบด้านผิวหนังโดยตรง ด้วยประสบการณ์เครื่องยกกระชับระดับโลก ทั้ง Ultherapy, Thermage และ เครื่องยกกระชับชั้นนำ ดูแลด้วย Advance Techniques และ Personalized Treatment Plans ประสบการณ์การดูแลผิวที่ออกแบบเพื่อผิวของคุณแบบ Holistic Approach โดยเฉพาะ
ที่สุภากาญจน์คลินิก คุณมั่นใจได้ว่า ทุกเครื่องที่คุณหมอคัดสรร เป็นเครื่องมือมาตรฐานสูงสุดระดับโลก ภายใต้การดูแลอย่างพิถีพิถัน ให้คุณเห็นผลชัด เจ็บน้อย และมีความสุขตลอดระยะเวลาเข้ารับบริการ
มีรีวิว และ ได้รับความไว้วางใจจากดารา เซเลป และ คนไข้ที่เข้ารับบริการซ้ำอย่างต่อเนื่อง เพราะ การันตี ยกชัด เห็นผลไว อยู่ได้นาน
S+ Oligio Elite Firm ProgramS+ Oligio Elite Firm Program ตอบโจทย์ในเรื่อง ?
– ลดเลือนริ้วรอย พร้อมทั้งกระชับรูขุมขน
– ริ้วรอยรอบดวงตา
– เสริมสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิว
– ยกกระชับใหน้า
– ลดไขมันส่วนเกิน
– แก้ปัญหาคาง 2ชั้น
Q&A : S+ Oligio Elite Firm Program
01. ความรู้สึกอย่างไร ขณะทำการรักษา
จะรู้สึกอุ่นๆใต้ผิว เพราะมีการสะสมพลังงานใต้ชั้นผิว อุณหภูมิใต้ผิวถึง 43 องศา
เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และอิลาสติน
หลังทำ สีผิวอมชมพูเล็กน้อย ไม่มีแผล ไม่ต้องพักฟื้น
02. ในการรักษา S+ Oligio Elite Firm Program ใช้เวลานานแค่ไหน
S+ Oligio Elite Firm Program ใช้ระยะเวลาในการรักษาประมาณ 15-30 นาที ขึ้นอยู่กับจำนวนช็อตในการรักษา
S+ Oligio Elite Firm Program AFTER CARE
ผลหลังการรักษาด้วย S+ Oligio Elite Firm Program เป็นอย่างไร
เห็นผลยกกระชับทันที เนื่องจากคอลลาเจนเกิดการหดตัว ประมาณ 20 – 30 %
เห็นผลเต็มที่ 3 เดือน อยู่นาน 6 – 1 ปี ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของผู้รับบริการ
แนะนำให้ทำต่อเนื่องปีละ 1 ครั้ง จะช่วยฟื้นฟูผิวให้ดีขึ้นเรื่อยๆ และทำให้เกิดการสร้างคอลลาเจนอย่างต่อเvนื่อง
คำแนะนำหลังการรักษาด้วย S+ Oligio Elite Firm Program
-หลังทำอาจมีผิวสีชมพู แต่จะดีขึ้นเองภายใน 1 ชั่วโมง
-แนะนำหลีกเลี่ยงการสตรีม ซาวน่า เลเซอร์ด้วยความร้อน
-ควรหลีกเลี่ยงแสงแดด ทาครีมบำรุงกันแดด ก่อนออกแดดทุกครั้ง
-หลังทำสามารถแต่งหน้าได้ตามปกติ
-ทานอาหารที่มีวิตามินซี สูง เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
-เห็นผลเต็มที่ 3 เดือน อยู่นาน 6 – 1 ปี ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของผู้รับบริการ