Outline บทความ โปรแกรม โบทอกซ์ – กดเลือกได้เลย !
สิ่งที่ควรรู้ก่อนฉีด Botox
Botox เหมาะกับใครบ้าง?
Botox ช่วยลดริ้วรอยได้อย่างไร? 
ริ้วรอย / ร่องแบบไหน ที่โบทอกซ์ เกินเยียวยา ?
ฉีด Botox กี่วัน เห็นผล 
ฉีดBotox อยู่นานแค่ไหน
การดื้อ Botox คืออะไร? ป้องกันอย่างไร?
โบท็อกซ์ (Botox): ผลข้างเคียง การดูแลตัวเอง และวิธีเลือกคลินิกที่ปลอดภัย 
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Botox
โบท็อกซ์ (Botox) ใช้กี่ยูนิต? คำนวณปริมาณที่เหมาะสมสำหรับแต่ละจุด 
ฉีดโบ ฯ ยี่ห้อไหนดี ? เปรียบเทียบโบท็อกซ์ 4 แบรนด์ยอดนิยม 
วิธีเลือกคลินิกฉีด Botox ให้ปลอดภัยและได้ผลลัพธ์ดี
Botox ที่ไหนดี
Botox ยี่ห้อไหนดี
Trick ที่จะทำให้ Botox ออกฤทธิ์ดี และ อยู่นาน
ทำไม โปรแกรม โบทอกซ์ ที่สุภากาญจน์คลินิก จึงแตกต่าง ?
กดดู​ โปรโมชั่น ของ โปรแกรม โบทอกซ์ ได้ที่นี่


โบท๊อกซ์คืออะไร มีประโยชน์อย่างไร วันนี้ที่สุภากาญจน์คลินิกมีคำตอบค่ะ

โบท๊อกซ์ ย่อมาจาก โบทูลินั่ม ท็อกซิน (Botulinum toxin) คือ สารสกัดจากแบคทีเรียชนิดหนึ่ง ชื่อว่า Clostridium Botulinum (คลอสตริเดียม โบทูลินัม) สารสกัดตัวนี้จะมีผลออกฤทธิ์ทำให้มัดกล้ามเนื้อทำงานได้ลดลงชั่วคราวค่ะ ในแง่ของการเสริมความงามนั้น จุดประสงค์ของการฉีดสารสกัดตัวนี้ คือ

การปรับรูปหน้า/รูปร่าง – การฉีดเพื่อให้มัดกล้ามเนื้อเล็กลง ทำให้รูปร่างหรือรูปหน้าเราเรียวสวยได้รูปมากขึ้น
ตำแหน่งที่ฉีด : กราม, ต้นขา, น่อง

การลดริ้วรอย – การฉีดลดการทำงานของกล้ามเนื้อบางตำแหน่ง ทำให้กล้ามเนื้อตำแหน่งนั้นหดตัวลง ซึ่งจะส่งผลให้ผิวนั้นบริเวณนั้นตึงขึ้น ทำให้ริ้วรอยดูตื้นขึ้น
ตำแหน่งที่นิยมฉีด: หน้าผาก,หางตา

Lift กรอบหน้า – ช่วยยกกระชับใบหน้าไม่ให้หย่อนคล้อย และทำให้กรอบหน้าดูชัดขึ้น
ฉีดใต้วงแขน รักแร้ – ช่วยลดการทำงานของต่อมเหงื่อ(มีส่วนช่วยในการระงับกลิ่นกาย)
บรรเทาอาการปวดไมเกรน – ช่วยทำให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย ช่วยลดอาการปวดได้
ลดอาการตากระตุก – ช่วยทำให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย ลดอาการตากระตุกได้

ก่อนที่จะตัดสินใจฉีดโบท๊อกซ์ แนะนำว่าให้ฉีดกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้และประสบการณ์เท่านั้นนะคะ เพราะก่อนการฉีด จะต้องมีการประเมินถึงขนาดมัดกล้ามเนื้อ / ความลึกของริ้วรอย เพื่อให้สอดคล้องกับปริมาณและชนิดของยาที่ต้องใช้ ทำให้การแสดงสีหน้าดูเป็นธรรมชาติ ไม่เกิดปัญหาในภายหลัง เช่น หน้าไม่แข็งหรือตึงจนเกินไป,ตาตก,หน้าเบี้ยว ไม่ได้รูป หรือ ยิ้มไม่สุดได้ค่ะ

หากคุณกำลังมองหาสถานที่ฉีด โปรแกรม Botox และยังลังเลว่าจะเลือกที่ไหนดี? บทความนี้จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
โดยเราจะพาคุณไปรู้จักกับ สิ่งที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจเข้ารับบริการ โปรแกรม Botox
พร้อมไขข้อสงสัยเกี่ยวกับโปรแกรม Botox ที่หลายคนสงสัย
และ จุดเด่นของการรับบริการโปรแกรม Botox ที่ SUPA-KUNN CLINIC

สิ่งที่ควรรู้ก่อนฉีด Botox
ก่อนตัดสินใจฉีด Botox ควรรู้ข้อมูลสำคัญเหล่านี้ เพื่อให้มั่นใจว่าได้ผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัย

  • Botox คืออะไร?

Botox เป็นสารโบทูลินัม ท็อกซิน ชนิด A ที่ช่วยลดริ้วรอยและปรับรูปหน้าโดยการคลายกล้ามเนื้อชั่วคราว

โบท็อกซ์ (Botox) มีประโยชน์ทางการแพทย์และด้านความงาม โดยสามารถใช้รักษาได้หลากหลายอาการ ดังนี้  

1. ด้านความงาม (Aesthetic Use)  
– ลดริ้วรอยบนใบหน้า เช่น รอยย่นบนหน้าผาก รอยขมวดคิ้ว รอยตีนกา  
– ปรับรูปหน้าเรียว โดยลดขนาดกล้ามเนื้อกราม (Masseter)  
– ลดริ้วรอยที่มุมปากและคอ เช่น รอยพับแนวตั้งที่ลำคอ (Platysmal Bands)  
– ยกกระชับใบหน้า เช่น ปรับแนวคิ้วให้ยกขึ้น (Botox Brow Lift)  

2. ด้านการแพทย์ (Medical Use)
– รักษาภาวะเหงื่อออกมากผิดปกติ (Hyperhidrosis) บริเวณรักแร้ ฝ่ามือ ฝ่าเท้า  
– รักษาภาวะกล้ามเนื้อเกร็ง (Spasticity) เช่น ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง (Stroke) หรือสมองพิการ (Cerebral Palsy)  
– รักษาไมเกรนเรื้อรัง (Chronic Migraine) โดยฉีด Botox เพื่อลดการตึงตัวของกล้ามเนื้อและบรรเทาอาการปวดศีรษะ  
– รักษาภาวะตากระตุก (Blepharospasm) และอาการกล้ามเนื้อใบหน้ากระตุกผิดปกติ  
– รักษาอาการปัสสาวะบ่อยหรือกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ (Overactive Bladder) โดยช่วยลดการบีบตัวของกระเพาะปัสสาวะ  
– รักษาภาวะกรามขบหรือฟันกัดแน่น (Bruxism) ช่วยลดอาการปวดขากรรไกรและฟันสึก
  
SUPAKUNN’S TIPS : โบท็อกซ์เป็นหัตถการที่ปลอดภัยหากทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ควรเข้ารับคำปรึกษาก่อนการรักษาเพื่อประเมินความเหมาะสม
และลดความเสี่ยงจากผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น

Botox เหมาะกับใครบ้าง?

– ผู้ที่ต้องการลดริ้วรอยบริเวณหน้าผาก หางตา หรือระหว่างคิ้ว
– ผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าเรียว ลดกราม
– ผู้ที่ต้องการลดเหงื่อบริเวณรักแร้ ฝ่ามือ ฝ่าเท้า

ริ้วรอย / ร่องแบบไหน ที่โบทอกซ์ เกินเยียวยา ? 

  • Static Line & Dynamic Line และการรักษาด้วยโบท็อกซ์  

เมื่อพูดถึงริ้วรอยบนใบหน้า หลายคนอาจไม่ทราบว่าริ้วรอยสามารถแบ่งออกเป็น
สองประเภทหลัก ได้แก่ Static Line และ Dynamic Line
ซึ่งเกิดจากกลไกที่แตกต่างกัน และมีแนวทางการรักษาที่เฉพาะเจาะจง โดยหนึ่งในวิธีที่ได้รับความนิยมและเห็นผลชัดเจนที่สุดคือ **การฉีดโบท็อกซ์ (Botox)**  

  • Static Line และ Dynamic Line คืออะไร?

1. Dynamic Line – ริ้วรอยที่เกิดจากการแสดงสีหน้า  
Dynamic Line เป็นริ้วรอยที่เกิดขึ้นจาก การขยับกล้ามเนื้อใบหน้า เช่น การยิ้ม การหัวเราะ การขมวดคิ้ว หรือการเลิกคิ้ว เมื่อเราทำสีหน้าแบบเดิมซ้ำๆ กล้ามเนื้อจะหดตัวและสร้างรอยพับขึ้นที่ผิวหนัง เช่น  
✅ รอยตีนกาเมื่อยิ้ม  
✅ รอยขมวดคิ้วจากการเครียด  
✅ รอยย่นบนหน้าผากจากการเลิกคิ้ว  

Dynamic Line มักจะ หายไปเมื่อใบหน้าอยู่ในสภาวะผ่อนคลาย แต่หากมีการใช้กล้ามเนื้อซ้ำๆ เป็นเวลานาน ริ้วรอยอาจกลายเป็น Static Line ได้ในที่สุด  


2. Static Line – ริ้วรอยที่อยู่ถาวรแม้ไม่ขยับหน้า  Static Line เป็นริ้วรอยที่คงอยู่บนใบหน้า แม้ในขณะที่ไม่ได้ขยับกล้ามเนื้อ โดยเกิดจาก คอลลาเจนและอิลาสตินลดลงตามอายุ รวมถึงปัจจัยภายนอก เช่น แสงแดด มลภาวะ และพฤติกรรมการใช้ชีวิต 
ตัวอย่างของ Static Line ได้แก่  
✅ ริ้วรอยลึกที่หน้าผากและระหว่างคิ้ว  
✅ ริ้วรอยร่องแก้มที่เห็นชัดตลอดเวลา  
✅ รอยพับบริเวณมุมปากที่เกิดจากความหย่อนคล้อย  

โบท็อกซ์ช่วยลดริ้วรอยได้อย่างไร?

โบท็อกซ์ (Botulinum Toxin Type A) เป็นสารที่ช่วย **คลายกล้ามเนื้อชั่วคราว** โดยยับยั้งการส่งสัญญาณจากเส้นประสาทไปยังกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อไม่หดตัว ส่งผลให้ริ้วรอยจากการแสดงสีหน้าลดลง  

👉 เหมาะกับการรักษา Dynamic Line เป็นหลัก เนื่องจากช่วยป้องกันไม่ให้ริ้วรอยฝังลึกและกลายเป็น Static Line ในอนาคต  

สำหรับ Static Line ที่ลึกมากแล้ว โบท็อกซ์อาจช่วยให้ริ้วรอยดูตื้นขึ้น แต่ไม่อาจทำให้หายขาด โดยทั่วไปมักต้องใช้การรักษาเสริม เช่น ฟิลเลอร์ (Hyaluronic Acid Fillers) หรือการทำเลเซอร์ควบคู่กัน เพื่อช่วยเติมเต็มร่องลึกและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน  

ฉีดโบกี่วัน เห็นผล
ระยะเวลาเห็นผลและผลลัพธ์ของโบท็อกซ์ 
✅ เริ่มเห็นผลภายใน 3-7 วัน หลังฉีด  
✅ เห็นผลเต็มที่ประมาณ 2-3 สัปดาห์  
✅ ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 4-6 เดือน ขึ้นอยู่กับ เทคนิคการฉีด ปริมาณยา และ พฤติกรรมการดูแลตัวเอง ของแต่ละบุคคล

ฉีดโบ อยู่นานแค่ไหน
✅ ผลลัพธ์อยู่ได้นานแค่ไหน?โดยทั่วไป Botox จะคงอยู่ได้นานประมาณ 4-6 เดือน
ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ เช่น
– ชนิดของ Botox
– เทคนิคของแพทย์ / ปริมาณที่ใช้
– และ การดูแลหลังฉีด

กดอ่านเพิ่มเติม Trick ที่จะทำให้ Botox ออกฤทธิ์ดี และ อยู่นาน

การดื้อ Botox คืออะไร? ป้องกันอย่างไร?
สิ่งที่น่ากลัว และ ต้องระวัง ของการรักษาด้วย Botox

การดื้อ Botox เกิดขึ้นเมื่อร่างกายสร้างภูมิต้านทานต่อสารโบทูลินัม ท็อกซิน ทำให้ฉีดแล้วไม่เห็นผล หรือ อยู่ไม่นาน ซึ่งมักเกิดจากปัจจัยดังนี้:
❌ ฉีดถี่เกินไป ทำให้ร่างกายสร้างภูมิต้านทาน 
❌ ใช้ Botox ปลอม หรือ Botox ที่ผสมสารเจือปนเยอะเกินไป 
❌ ฉีดในปริมาณที่ไม่เหมาะสม

วิธีป้องกันการดื้อ Botox
– ฉีดในปริมาณที่พอดีและตามคำแนะนำของแพทย์
– เลือกใช้ Botox ของแท้จากแหล่งที่เชื่อถือได้
– เว้นระยะห่างระหว่างการฉีดอย่างน้อย 4-6 เดือน

โบท็อกซ์ (Botox): ผลข้างเคียง การดูแลตัวเอง และวิธีเลือกคลินิกที่ปลอดภัย  
การฉีดโบท็อกซ์เป็นหัตถการยอดนิยมในการลดริ้วรอยและปรับรูปหน้าให้เรียวกระชับ แต่เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัย ควรรู้ถึงผลข้างเคียง การดูแลตัวเอง และวิธีเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน  

🩺 ผลข้างเคียงของการฉีดโบท็อกซ์  
โดยทั่วไป การฉีดโบท็อกซ์มีความปลอดภัยสูงหากฉีดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ แต่ยังมีผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ เช่น  
🤏 ผลข้างเคียงเล็กน้อย (เกิดขึ้นชั่วคราวและหายได้เอง)  
✅ **รอยแดงและบวม** บริเวณที่ฉีด มักหายไปภายใน 1-2 ชั่วโมง  
✅ **ช้ำหรือมีรอยเขียว** บางรายอาจมีรอยฟกช้ำเล็กน้อย แต่สามารถลดได้ด้วยการประคบเย็น  
✅ **ปวดหรือรู้สึกตึง** ในจุดที่ฉีด มักเกิดขึ้นเพียง 1-3 วันแรก  
✅ **หัวคิ้วตก/ตาตก** หากฉีดไม่ถูกตำแหน่ง แต่สามารถแก้ไขได้  

🚨 ผลข้างเคียงที่พบได้น้อย (หากฉีดผิดวิธีหรือใช้โบท็อกซ์ไม่ได้มาตรฐาน)  
⚠️ หน้าแข็ง ดูไม่เป็นธรรมชาติ  
⚠️ มุมปากตก พูดหรือยิ้มไม่ถนัด  
⚠️ กล้ามเนื้ออ่อนแรงในบางจุด (หากฉีดในปริมาณที่มากเกินไป)  

💡 วิธีลดความเสี่ยง:  
– เลือกคลินิกที่มีแพทย์ผู้ที่มีประสบการณ์ เชี่ยวชาญและ ใช้ตัวยา โบท็อกซ์ของแท้ ตรวจสอบได้
– ปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับปริมาณที่เหมาะสมกับใบหน้าของคุณ

วิธีเลือกคลินิกฉีด Botox ให้ปลอดภัยและได้ผลลัพธ์ดี
เนื่องจากการฉีด Botox ต้องอาศัยเทคนิคและความชำนาญของแพทย์ ควรเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน โดยพิจารณาจากปัจจัยต่อไปนี้

🔹 เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน  
– มีใบอนุญาตประกอบการถูกต้อง 
– ใช้ Botox ของแท้จากบริษัทผู้ผลิต 
– มีรีวิวจากผู้ใช้จริงและสามารถตรวจสอบได้

🔹 เลือกแพทย์ที่มีประสบการณ์  
– แพทย์ต้องมีความเชี่ยวชาญในการฉีด Botox และสามารถประเมินรูปหน้าได้อย่างแม่นยำ
– มีการวิเคราะห์กล้ามเนื้อและออกแบบการฉีดให้เหมาะกับแต่ละบุคคล

🔹 เลือก Botox ของแท้และเหมาะสมกับปัญหาผิว  
– Botox มีหลายแบรนด์ เช่น Allergan, Xeomin, Dysport และ Aestox
แต่ละตัวมีคุณสมบัติแตกต่างกัน
– ควรตรวจสอบว่าเป็นของแท้ โดยสังเกตบรรจุภัณฑ์และสอบถามคลินิกเกี่ยวกับแหล่งที่มาของผลิตภัณฑ์

ทำไม โปรแกรม โบทอกซ์ ที่สุภากาญจน์คลินิก จึงแตกต่าง ?
https://supakunnclinic.com/supakunnwhyusbotoxth/

Trick ที่จะทำให้ Botox ออกฤทธิ์ดี และ อยู่นาน
https://supakunnclinic.com/supakunnblogbotoxtipsth/

กดดู​ โปรโมชั่น ของ โปรแกรม โบทอกซ์ ได้ที่นี่
https://supakunnclinic.com/botox-2/

SUPA-KUNN CLINIC: เหนือกว่า มาตรฐานของการฉีด Botox เพราะเราดูแลใส่ใจ
ใกล้ชิด ติดตามผลลัพธ์ให้คุณสวยอย่างมั่นใจ 

ที่ SUPA-KUNN CLINIC เราให้ความสำคัญกับความปลอดภัยและประสิทธิภาพของการฉีด Botox โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ พร้อมเลือกใช้เทคนิคเฉพาะบุคคลเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ ไม่แข็งตึงเกินไป

💎 Botox แท้ 100%  นำเข้าจากบริษัทผู้ผลิตโดยตรง ตรวจสอบได้
💎 แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการปรับรูปหน้า ประเมินและออกแบบการฉีดให้เหมาะกับแต่ละบุคคล
💎 เทคนิคฉีดที่แม่นยำ ช่วยลดโอกาสการดื้อ Botox และให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ
💎 ติดตามผลหลังฉีด เพื่อให้มั่นใจว่าลูกค้าได้รับผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

❓ ฉีด Botox แล้วหน้าจะแข็งไหม?  
🔹 หากฉีดโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ จะสามารถควบคุมปริมาณให้เหมาะสม ทำให้ดูเป็นธรรมชาติ ไม่แข็งทื่อ

❓ ฉีด Botox แล้วต้องดูแลตัวเองอย่างไร?  
🔹 หลีกเลี่ยงการนอนราบภายใน 4 ชั่วโมงแรก 
🔹 งดนวดหน้าและหลีกเลี่ยงความร้อน เช่น ซาวน่า 24-48 ชั่วโมงแรก
🔹 งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 24 ชั่วโมงหลังฉีด

โบท็อกซ์ (Botox) ใช้กี่ยูนิต? คำนวณปริมาณที่เหมาะสมสำหรับแต่ละจุด  
การฉีดโบท็อกซ์ต้องใช้ปริมาณ (ยูนิต) ที่เหมาะสมกับแต่ละบริเวณของใบหน้าและปัญหาของแต่ละบุคคล การใช้ยูนิตที่เหมาะสมจะช่วยให้เห็นผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติและปลอดภัย

ปริมาณโบท็อกซ์ที่ใช้ในแต่ละจุด (โดยประมาณ)  
💆 ลดริ้วรอยบริเวณใบหน้า  
🔹 หน้าผาก (Forehead lines): 10 – 20 ยูนิต  
🔹 รอยขมวดคิ้ว (Glabellar lines): 10 – 25 ยูนิต  
🔹 รอยตีนกา (Crow’s feet): ข้างละ 6 – 12 ยูนิต (รวมสองข้าง 12 – 24 ยูนิต)  
🔹 รอยย่นจมูก (Bunny lines): 4 – 10 ยูนิต  

💖 ปรับรูปหน้า & ยกกระชับ  
🔹 ลดกราม / หน้าเรียว: 30 – 60 ยูนิต (ขึ้นอยู่กับขนาดกล้ามเนื้อ)  
🔹 ลิฟต์กรอบหน้า (Nefertiti Lift): 20 – 50 ยูนิต  
🔹 ลดเหนียง / กระชับคาง: 10 – 20 ยูนิต  

🗣️ ปรับสมดุลกล้ามเนื้อรอบปาก & คอ  
🔹 ลดรอยย่นรอบปาก (Lip lines): 4 – 10 ยูนิต  
🔹 ยกมุมปาก: 4 – 8 ยูนิต  
🔹 ลดรอยบุ๋มที่คาง (Dimple chin): 6 – 10 ยูนิต  
🔹 ลดริ้วรอยคอ (Platysmal bands): 20 – 50 ยูนิต  

💦 ลดเหงื่อใต้วงแขน & ลดกลิ่นตัว  
🔹 รักแร้: ข้างละ 50-100 ยูนิต (รวม 100-200 ยูนิต)  
🔹 ฝ่ามือ / ฝ่าเท้า: ข้างละ 50 – 100 ยูนิต

🧐 ปัจจัยที่ส่งผลต่อปริมาณยูนิตที่ใช้  
1️⃣ ขนาดของกล้ามเนื้อ → คนที่มีกล้ามเนื้อแข็งแรง เช่น กล้ามกรามใหญ่ อาจต้องใช้ยูนิตมากกว่าปกติ  
2️⃣ ระดับริ้วรอย → ริ้วรอยลึก อาจต้องใช้ปริมาณที่สูงขึ้นเพื่อให้เห็นผลชัดเจน ทั้งนี้ขึ้นกับการทำงานของกล้ามเนื้อ อายุ และสภาพผิวของแต่ละเคส 
3️⃣ ประสบการณ์การฉีดโบท็อกซ์ก่อนหน้า → ถ้าเคยฉีดมาหลายครั้ง อาจต้องเพิ่มยูนิตเพื่อให้ได้ผลลัพธ์เดิม  
4️⃣ ยี่ห้อของโบท็อกซ์ → โบท็อกซ์แต่ละยี่ห้อมีความเข้มข้นต่างกัน เช่น **Dysport** อาจต้องใช้มากกว่า **Allergan**

🔎 วิธีคำนวณโบท็อกซ์ที่เหมาะกับคุณ  
✅ ปรึกษาแพทย์เพื่อวิเคราะห์ใบหน้าและกำหนดจำนวนยูนิตที่เหมาะสม  
✅ ถ้าเพิ่งเริ่มฉีดครั้งแรก อาจเริ่มจากปริมาณน้อย แล้วค่อยเติมเพิ่มในภายหลัง ฉีดมากไปอาจได้ผลไม่เป็นธรรมชาติ หรือ อาจเกิดผลข้างเคียง เช่น หนักตา ตาตก ได้ 
✅ ใช้ **โบท็อกซ์แท้ 100%** ที่ได้รับ อย. เท่านั้น เพื่อลดความเสี่ยงของผลข้างเคียง  

หลายคนอาจจะกังวลใจ ว่า จะเลือกโปรแกรมโบทอกซ์อย่างไร ให้พอดีกับจำนวนยูนิตที่ต้องใช้
เพราะบางครั้ง เหมาขวด 100 ยูนิต อาจมากหรือน้อยเกินไป ไม่พอดี
ที่คลินิกของเรา มีโปรแกรมทั้งเหมาขวด และ เหมาบริเวณ ทำให้คุณตัดสินใจง่ายขึ้น
แถมไม่ต้องกังวลเรื่องผลลัพธ์ หรือต้องมาจ่ายเงินยิบย่อยหากยูนิตไม่พอ
เพราะ เรามีการันตี จ่ายครั้งเดียว ติดตามผลการรักษาอย่างใกล้ชิด

💬 **หากต้องการทราบว่าต้องใช้กี่ยูนิตสำหรับใบหน้าของคุณ ปรึกษาคลินิกที่มีแพทย์ของเราที่สุภากาญจน์คลินิก ได้เลยนะคะ 😊**

โบท๊อกซ์(BOTOX) มี่กี่ยี่ห้อ มีความเหมือน หรือ แตกต่างกันอย่างไร?

ประเทศคุณลักษณะ
AESTOXเกาหลีโบท็อกซ์เกาหลีพรีเมี่ยม มีความบริสุทธิ์สูงเทียบในกลุ่ม โบท็อกซ์เกาหลี เห็นผลเร็ว
Dysportอังกฤษออกฤทธิ์ค่อนข้างไว โบท๊อกกระจายได้ค่อนข้างทั่วถึง คุณภาพสูง ลักษณะโมเลกุลยามีส่วนช่วยลดโอกาสการดื้อยา เหมาะกับการฉีดเพื่อกระชับหน้า ลดต้นแขนหรือน่อง ราคาปานกลางค่อนไปทางสูง
Xeominเยอรมันโบท๊อกกระจายได้ค่อนข้างทั่วถึง คุณภาพสูง ให้ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติ ลักษณะโมเลกุลยามีส่วนช่วยลดโอกาสการดื้อยา ใช้ได้ผลดีกับบางเคสที่ดื้อยา ราคาปานกลางค่อนไปทางสูง
Allerganอเมริกาเป็นบริษัทต้นตำหรับเรื่องโบท๊อก มีงานวิจัยจำนวนมากรองรับ ทำให้ยี่ห้อนี้มีความน่าเชื่อถือสูง ให้ผลลัพธ์ดี ราคาค่อนข้างสูง

หมายเหตุ:

  • ในส่วนของ ระยะเวลาการออกฤทธิ์,ระยะเวลาการคงอยู่ของผลลัพธ์,การดื้อยา อาจเป็นผลลัพธ์ที่ขึ้นอยู่กับเฉพาะบุคคลซึ่งแต่ละบุคคลอาจจะมีการตอบสนองที่ไม่เหมือนกัน ซึ่งเกี่ยวข้องกับปริมาณยาและชนิดของยาที่ใช้หรือข้อปฏิบัติตนหลังการฉีดของแต่ละบุคคล
  • ควรให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญให้คำแนะนำทุกครั้งในการตัดสินใจเลือกยี่ห้อ เพื่อให้ผลลัพธ์การฉีดดีที่สุด

ฉีดโบ ฯ ยี่ห้อไหนดี ? เปรียบเทียบโบท็อกซ์ 4 แบรนด์ยอดนิยม
– Allergan, Xeomin, Dysport และ Korea Botox**  การฉีดโบท็อกซ์เป็นหนึ่งในวิธีลดริ้วรอยและปรับรูปหน้าที่ได้รับความนิยมมากที่สุด แต่หลายคนอาจสงสัยว่า “ควรเลือกฉีดโบท็อกซ์ยี่ห้อไหนดี?”
ปัจจุบันมีโบท็อกซ์หลายแบรนด์ให้เลือก โดยแต่ละยี่ห้อมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน
บางครั้งที่คุณไปรับบริการ อาจไม่มีโอกาสได้เลือก เพราะ แต่ละคลินิกอาจมีตัวยาให้บริการที่แตกต่างกันออกไป
แต่ที่สุภากาญจน์คลินิก เรามีให้เลือกทุกตัวยา เพราะแต่ละ ตัวยา จะมีจุดเด่น ที่เหมาะกับแต่ละบุคคล
ให้คุณเลือกได้ตามปัญหาและความกังวลของคุณ โดยไม่มีข้อจำกัดเรื่องของตัวเลือก

โดยในบทความนี้ เราจะมาเปรียบเทียบโบท็อกซ์ 4 แบรนด์ยอดนิยม ได้แก่
**Allergan (อเมริกา), Xeomin (เยอรมนี), Dysport (อังกฤษ), และ Korea Botox (เกาหลี)**

เปรียบเทียบโบท็อกซ์แต่ละยี่ห้อ  

แบรนด์ประเทศผู้ผลิตจุดเด่นระยะเวลาการออกฤทธิ์ระยะเวลาคงอยู่กระจายตัวโอกาสดื้อยา
Allerganสหรัฐอเมริกามาตรฐานสูง, ผลลัพธ์คงที่
แน่น ตึง
3-7 วัน4-6 เดือนปานกลางต่ำ
xeominเยอรมันไม่มีโปรตีนเจือปน ลดโอกาสดื้อยา เป็นธรรมชาติ3-7 วัน4-6 เดือนแคบ, แม่นยำควบคุมง่ายต่ำที่สุด
Dysportอังกฤษกระจายตัวดี ฉีดกราม-ลดน่องเหมาะ1-3 วัน4-6 เดือนกว้าง, ดูเป็นธรรมชาติต่ำ
Korea Botox
(มีหลายแบรนด์)
เกาหลีราคาประหยัด, ได้ผลดีในระยะสั้น7-14 วัน3-4 เดือนขึ้นกับแบรนด์ปานกลางถึงสูง

1. Allergan – โบท็อกซ์อเมริกา มาตรฐานระดับโลก  
✅ ผลิตโดยบริษัท Allergan ประเทศสหรัฐอเมริกา  
✅ ได้รับการรับรองจาก FDA อเมริกา และใช้กันอย่างแพร่หลายทั่วโลก  
✅ มีความบริสุทธิ์สูงและควบคุมปริมาณโปรตีนเจือปนได้ดี ทำให้ลดโอกาสดื้อยา  
✅ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการผลลัพธ์ที่ แม่นยำ ตึง และอยู่ได้นาน  

👉 เหมาะสำหรับ:
✔️ ลดริ้วรอยบนใบหน้า เช่น หน้าผาก ตีนกา ระหว่างคิ้ว  
✔️ ปรับหน้าเรียว ลดกราม ควบคุมได้ดี เห็นผลชัด  

2. Xeomin – โบท็อกซ์เยอรมัน บริสุทธิ์สูง ไม่ดื้อยา  
✅ ผลิตโดยบริษัท*Merz Pharma ประเทศเยอรมนี  

✅ จุดเด่นคือ ไม่มีโปรตีนเจือปน (Purified Botox) ลดความเสี่ยงดื้อยาได้ดีที่สุด  
✅ ให้ผลลัพธ์คล้าย Allergan แต่มีความเป็นธรรมชาติสูงกว่า
✅ มีงานวิจัยในการฉีด กระชับรูขุมขน งานผิว (X-Derma) และ Lifting   
✅ เหมาะสำหรับคนที่ฉีดโบท็อกซ์เป็นประจำและกังวลเรื่องดื้อยา  

👉 เหมาะสำหรับ: 
✔️ คนที่เคยฉีดโบท็อกซ์มาหลายครั้ง ต้องการดูแลระยะยาว และกลัวดื้อยา  
✔️ ลดริ้วรอยแบบเป็นธรรมชาติ ไม่แข็งตึงเกินไป

3. Dysport – โบท็อกซ์อังกฤษ กระจายตัวดี เหมาะกับกราม-น่อง หรือ เคสที่ต้องการผล lifting ชัดสวย ออกฤทธิ์ไว
✅ ผลิตโดยบริษัท Ipsen ประเทศอังกฤษ  
✅ มีจุดเด่นที่การกระจายตัวของสารโบทูลินัมกว้างกว่าแบรนด์อื่น ทำให้ดู เป็นธรรมชาติ  
✅ ออกฤทธิ์เร็วกว่า (ประมาณ 2-5 วัน) เหมาะกับคนที่ต้องการเห็นผลไว  
✅ เหมาะกับการฉีดในบริเวณที่ต้องการกระจายตัวดี เช่น กราม น่อง หรือใต้รักแร้ (ลดเหงื่อ)  

👉 เหมาะสำหรับ: 
✔️ ปรับหน้าเรียว ลดขนาดกรามให้ดูละมุน  
✔️ ลดเหงื่อใต้วงแขน หรือฉีดน่องให้เรียว  

4. Korea Botox – โบท็อกซ์เกาหลี ราคาย่อมเยา  
✅ มีหลายแบรนด์ เช่น Botulax, Nabota, Aestox, Meditoxin แนะนำให้เลือกให้ดี เพราะมาตรฐานของแต่ละแบรนด์มีความแตกต่างกันย่อยๆออกไป
✅ ผลลัพธ์ใกล้เคียงกับ Allergan เนื่องจากโครงสร้างโมเลกุลยาใกล้เคียงกัน แต่มีราคาประหยัดกว่า  
✅ เห็นผลเร็วพอสมควร แต่ระยะเวลาออกฤทธิ์อาจสั้นกว่า (ประมาณ 3-4 เดือน)  
✅ มีโอกาสดื้อยามากกว่าแบรนด์ระดับพรีเมียม ทั้งนี้ขึ้นกับเทคนิคการฉีด คุณภาพตัวยา และการผสมยา  

👉 เหมาะสำหรับ: 
✔️ คนที่ต้องการทดลองฉีดโบท็อกซ์ในราคาประหยัด  
✔️ ผู้ที่ไม่ได้ฉีดเป็นประจำ ไม่กังวลเรื่องดื้อยา

  • เลือกฉีดโบท็อกซ์ยี่ห้อไหนดี?  
    ✅ ต้องการผลลัพธ์แม่นยำ คงทน → Allergan  
    ✅ กังวลเรื่องดื้อยา เน้นผลเป็นธรรมชาติ ไม่อยากให้หนักตา ตาตก → Xeomin  
    ✅ ต้องการความเป็นธรรมชาติ เน้น Lifting กระจายตัวดี → Dysport  
    ✅ งบจำกัด → Korea Botox  

    SUPAKUNN’S TRICK – คำแนะนำ:
    ไม่มีตัวไหนที่โดดเด่นกว่าตัวไหนเป็นพิเศษ เพราะ ขึ้นกับเทคนิคการฉีด การวางแผนการรักษาที่เหมาะกับเราด้วย หลักๆ   ควรเลือกฉีดโบท็อกซ์กับคลินิกที่ได้มาตรฐาน ใช้โบท็อกซ์แท้และฉีดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ปลอดภัยและเป็นธรรมชาติ ✨
  • การดูแลตัวเองก่อนและหลังฉีดโบท็อกซ์  

✅ การเตรียมตัวก่อนฉีดโบท็อกซ์  
🔹 งดแอลกอฮอล์และอาหารเสริมบางชนิด เช่น วิตามิน E, น้ำมันปลา อย่างน้อย **3-7 วัน** เพื่อลดความเสี่ยงช้ำ  
🔹 หลีกเลี่ยงการใช้ยาแก้อักเสบหรือยาแก้ปวดบางชนิด เช่น แอสไพริน หรือไอบูโพรเฟน  
🔹 นอนพักผ่อนให้เพียงพอ ลดความเครียดก่อนเข้ารับบริการ  

✅ การดูแลหลังฉีดโบท็อกซ์  
💙 **ภายใน 4 ชั่วโมงแรก:**  
✔️ **ห้ามนอนราบ หรือก้มหน้า** เพราะอาจทำให้โบท็อกซ์กระจายไปในตำแหน่งที่ไม่ต้องการ  
✔️ หลีกเลี่ยงการแตะ นวด หรือกดจุดที่ฉีด  

💙 **ภายใน 24 ชั่วโมงแรก:**  
✔️ งดออกกำลังกายหนัก ๆ หรือกิจกรรมที่ทำให้เหงื่อออกมาก  
✔️ หลีกเลี่ยงความร้อน เช่น ซาวน่า การอาบน้ำร้อน หรือการตากแดดจัด  

💙 **ภายใน 7 วันแรก:**  
✔️ หลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์ และอาหารหมักดองเพื่อลดการอักเสบ  
✔️ สังเกตผลลัพธ์ ถ้ามีอาการผิดปกติ ควรรีบปรึกษาแพทย์

4 ข้อควรรู้ ก่อนฉีดโบท๊อกซ์

เตรียมตัวอย่างไร ก่อนฉีดโบท็อกซ์
1. ควรงดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 24 ชั่วโมงก่อนการฉีด
2. ไม่ได้อยู่ในภาวะตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร และ ไม่มีโรคประจำตัวร้ายแรง เช่น โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง
3. เพื่อป้องการอาการฟกช้ำ ควรหยุดการใช้ยาแก้ปวด ยาแอสไพริน ยากลุ่มต้านการอักเสบ NSAIDS ได้แก่ Ibruprofen, Naproxen อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนการฉีด
4. งดวิตามินที่ทำให้เลือดหยุดไหลยาก เช่น วิตามินอี น้ำมันปลา น้ำมันอิฟนิ่งพริมโรส อย่างน้อย 2 สัปดาห์

อยู่ได้นานกี่เดือน
ระยะเวลาของผลลัพธ์อยู่ได้ประมาณ 4 -8 เดือน ขึ้นอยู่กับตำแหน่ง โดยปัจจัยที่ส่งผลกระทบหลักมีดังนี้
1. งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แอลกอฮอล์ทำให้ฤทธิ์ของยาลดลง
2. งดออกกำลังกายอย่างหนัก, อบซาวน่า, แช่น้ำอุ่น เนื่องจากความร้อนจะสลายตัวยาให้หมดสภาพเร็วขึ้น
3. ยิ่งมีการใช้งาน กล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดบ่อยๆ จะทำให้ผลลัพธ์สั้นลง
4. หลังฉีดโบท็อกซ์งดนอนราบ  เป็นเวลาประมาณ 4 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการไหลของโบท็อกซ์
5. งดการนวดกดจุดบริเวณที่ฉีด เป็นเวลา 1  เดือน
6. หลีกเลี่ยงไม่ให้บริเวณที่ฉีดโดนความร้อนเป็นเวลา 1-2 สัปดาห์ รวมไปถึงงดการทำทรีทเม้นท์ด้วยเครื่อง RF หรือเลเซอร์อย่างน้อย 2 สัปดาห์

หมายเหตุ:

  • กรณีฉีดโบท็อกซ์บริเวณกราม หลังฉีดให้เคี้ยวหมากฝรั่ง 2 ข้างเท่าๆกัน โดยการสลับซ้ายขวา เป็นเวลา 30 นาที – 1 ชั่วโมง เพื่อให้ตัวยากระจายเข้ากล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดได้ดียิ่งขึ้น
  • หลังฉีดโบท็อกซ์ได้ประมาณ 4 ชั่วโมง สามารถแต่งหน้าได้ตามปกติ

ข้อห้ามสำหรับบุคคลที่ต้องการฉีดโบท๊อกซ์

1. กำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตรอยู่
2. ผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง
3. ผู้ที่มีภาวะ หรือ ป่วย เกี่ยวข้องกับอาการเลือดออกแล้วหยุดยาก
4. ผู้ที่มีอาการแพ้สาร Botulinum

ทำอย่างไรให้ผลลัพธ์หลังฉีดโบท๊อกซ์ยาวนานที่สุด

โดยทั่วไป ระยะเวลาของผลลัพธ์อยู่ได้ประมาณ 4 -8 เดือน ขึ้นอยู่กับตำแหน่ง โดยปัจจัยที่ส่งผลกระทบหลักมีดังนี้
1. งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แอลกอฮอล์ทำให้ฤทธิ์ของยาลดลง
2. งดออกกำลังกายอย่างหนัก, อบซาวน่า, แช่น้ำอุ่น เนื่องจากความร้อนจะสลายตัวยาให้หมดสภาพเร็วขึ้น
3. ยิ่งมีการใช้งาน กล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดบ่อยๆ จะทำให้ผลลัพธ์สั้นลง
4. หลังฉีดโบท็อกซ์งดนอนราบ  เป็นเวลาประมาณ 4 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการไหลของโบท็อกซ์
5. งดการนวดกดจุดบริเวณที่ฉีด เป็นเวลา 1  เดือน
6. หลีกเลี่ยงไม่ให้บริเวณที่ฉีดโดนความร้อนเป็นเวลา 1-2 สัปดาห์ รวมไปถึงงดการทำทรีทเม้นท์ด้วยเครื่อง RF หรือเลเซอร์อย่างน้อย 2 สัปดาห์

หมายเหตุ:

  • กรณีฉีดโบท็อกซ์บริเวณกราม หลังฉีดให้เคี้ยวหมากฝรั่ง 2 ข้างเท่าๆกัน โดยการสลับซ้ายขวา เป็นเวลา 30 นาที – 1 ชั่วโมง เพื่อให้ตัวยากระจายเข้ากล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดได้ดียิ่งขึ้น
  • หลังฉีดโบท็อกซ์ได้ประมาณ 4 ชั่วโมง สามารถแต่งหน้าได้ตามปกติ

โบท๊อกซ์แท้ดูอย่างไร? เราจะมั่นใจได้อย่างไร ?

ที่สุภากาญจน์คลินิก เราการันตีในการใช้ยาแท้ ได้มาตรฐาน ตรวจสอบได้ทุกขวด เพื่อให้คนไข้ได้รับตัวยามาตรฐาน ปลอดภัย ลดโอกาสการดื้อยา และได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดโดยคุณหมอจะเปิดขวด ผสมยาต่อหน้า ไม่เจือจางยา สอนวิธีดูของแท้ และคนไข้สามารถตรวจสอบยาทุกขวดได้ด้วยตนเอง กับบริษัทตัวแทนที่ถูกต้องตามกฎหมายค่ะมั่นใจ ปลอดภัย ภายใต้มาตรฐานสูงสุดที่สุภากาญจน์คลินิกค่ะ วิธีดูโบท็อกซ์ ของแท้

ตัดสินใจฉีดโบท๊อกซ์ที่ไหน ตัดสินใจจากอะไร

การที่เราจะฉีดโบท๊อกซ์กับใครหรือคลินิกไหน เราจะต้องมีความมั่นใจ และสบายใจว่าจะได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการแน่นอน ทางสุภากาญจน์คลินิกมีข้อแนะนำดังนี้ค่ะ
1. ตรวจสอบความน่าเชื่อถือของคลินิก เราสามารถตรวจสอบได้ ดำเนินการโดยแพทย์ โดยเราสามารถนำชื่อคลินิกไปตรวจสอบได้เราจะมั่นใจระดับนึงว่าไม่ใช่คลินิกเถื่อนแน่นอน
2. แพทย์ต้องมีประสบการณ์และความชำนาญที่สุภากาญจน์คลินิกคุณหมอจบด้านนี้มาโดยตรง เราดูแลคุณอย่างดีที่สุดค่ะ
3. ใช้ยาแท้ ต้องใช้ยาและเปิดขวดใหม่ต่อหน้าผู้เข้ารับการบริการทุกครั้ง
4. ดูรีวิวของผู้ที่เคยเข้ามาใช้บริการ หรือเข้าไปสอบถามจากผู้ใช้บริการจริง ดูรีวิวผู้มารับบริการจริงของสุภากาญจน์คลินิกได้ที่นี่ค่ะ >>> link
5. ราคาสมเหตุสมผล
6. มีนัดดูผลและติดตามอาการอย่างใกล้ชิด สุภากาญจน์คลินิกของเรามีความเอาใจใส่คนไข้ทุกคนของคลินิกค่ะ มีการนัดตรวจติดตามประเมินผลหลังการรักษาทุกเคส เพื่อให้ผลลัพธ์ที่พุงพอใจคุณมากที่สุดค่ะ

🏥 เทคนิคการเลือกคลินิกฉีดโบท็อกซ์ให้ปลอดภัย  
เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและลดความเสี่ยงจากผลข้างเคียง ควรพิจารณาคลินิกตามเกณฑ์ต่อไปนี้  
✅ 1. แพทย์มีความเชี่ยวชาญ มีประสบการณ์ 
🔹 ควรเป็น แพทย์ผู้มีประสบการณ์ เฉพาะทางด้านผิวหนัง หรือ ศัลยกรรมตกแต่ง  
🔹 มีประสบการณ์ในการฉีดโบท็อกซ์และสามารถออกแบบใบหน้าได้อย่างเป็นธรรมชาติ  

✅ 2. ใช้โบท็อกซ์แท้ 100%  
🔹 ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรองจาก **อย. (องค์การอาหารและยา)**  
🔹 โบท็อกซ์แท้ต้องมี **Lot Number และ Serial Number** ตรวจสอบได้
ที่คลินิกของเรา เปิดกล่องต่อหน้า และ สามารถตรวจสอบยาได้ทุกขวด
เรามีการันตี และ ติดตามผลลัพะ์ใกล้ชิด   

✅ 3. มีรีวิวจากผู้ใช้จริง  
🔹 ควรดูรีวิวจากลูกค้าจริง หรือศึกษาความคิดเห็นจากแหล่งที่เชื่อถือได้  

✅ 4. สถานที่สะอาดและได้มาตรฐาน 
🔹 คลินิกต้องมีใบอนุญาตประกอบกิจการที่ออกโดยกระทรวงสาธารณสุข  
🔹 ห้องหัตถการสะอาด ปลอดเชื้อ และมีอุปกรณ์ครบครัน  


✅ 5. มีการให้คำปรึกษาก่อนฉีด  
🔹 ควรมี **การประเมินรูปหน้า** และวางแผนการฉีดโดยแพทย์  
🔹 มีการติดตามผลหลังฉีด และให้คำแนะนำในการดูแลตัวเอง  

📌 สรุป 
เลือก Botox ต้องเลือกให้ดี และ เหมาะกับคุณ
✔️ ผลข้างเคียงของโบท็อกซ์ อาจมีรอยแดง บวม หรืออาการชั่วคราวเล็กน้อย แต่สามารถหลีกเลี่ยงผลข้างเคียงร้ายแรงได้ด้วยการฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์  
✔️ การดูแลตัวเองก่อนและหลังฉีด ช่วยให้ผลลัพธ์ออกมาดีขึ้น ลดโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อน  
✔️ เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน สำคัญที่สุด เพราะช่วยให้คุณได้รับโบท็อกซ์แท้และบริการที่ปลอดภัย 

สถานที่ให้บริการมีหลากหลาย แต่ การฉีดให้ผลลัพธ์สวย เหมาะกับความต้องการ ต้องอาศัยเทคนิคในการดูแลที่เหมาะสม 

หากคุณกำลังมองหาคลินิกฉีด Botox ที่ปลอดภัย เห็นผลจริง และมีแพทย์ที่มีประสบการณ์

SUPA-KUNN CLINIC คือ หนึ่งใน คำตอบที่คุณไว้วางใจได้
และ เรามีโปรแกรมหลากหลาย รวมถึง การันตีผลลัพธ์ที่ตอบโจทย์คุณ
เราพร้อมให้คำปรึกษาและออกแบบการฉีดให้เหมาะกับคุณ
เพื่อผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติและปลอดภัย เห็นผลดี
💬 หากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับโบท็อกซ์
ติดต่อคลินิกที่ได้มาตรฐานเพื่อรับคำแนะนำที่เหมาะสมกับคุณ 😊✨
กำลังมองหาว่า เลือก ทำ Botox ที่ไหนดี ในโซน กรุงเทพ ?
เลือกอย่างไรให้คุ้มค่าและปลอดภัย
สุภากาญจน์คลินิกของเรา เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่คุณมั่นใจได้อย่างแน่นอนค่ะ

Copyright © SUPA-KUNN CLINIC. All rights reserved. Unauthorized use and/or duplication of this material without express and written permission from this site’s author and/or owner is strictly prohibited. Excerpts and links may be used, provided that full and clear credit is given to SUPA-KUNN CLINIC with appropriate and specific direction to the original content.