โบท๊อกซ์คืออะไร มีประโยชน์อย่างไร วันนี้ที่สุภากาญจน์คลินิกมีคำตอบค่ะ
โบท๊อกซ์ ย่อมาจาก โบทูลินั่ม ท็อกซิน (Botulinum toxin) คือ สารสกัดจากแบคทีเรียชนิดหนึ่ง ชื่อว่า Clostridium Botulinum (คลอสตริเดียม โบทูลินัม) สารสกัดตัวนี้จะมีผลออกฤทธิ์ทำให้มัดกล้ามเนื้อทำงานได้ลดลงชั่วคราวค่ะ ในแง่ของการเสริมความงามนั้น จุดประสงค์ของการฉีดสารสกัดตัวนี้ คือ
การปรับรูปหน้า/รูปร่าง – การฉีดเพื่อให้มัดกล้ามเนื้อเล็กลง ทำให้รูปร่างหรือรูปหน้าเราเรียวสวยได้รูปมากขึ้น
ตำแหน่งที่ฉีด : กราม, ต้นขา, น่อง
การลดริ้วรอย – การฉีดลดการทำงานของกล้ามเนื้อบางตำแหน่ง ทำให้กล้ามเนื้อตำแหน่งนั้นหดตัวลง ซึ่งจะส่งผลให้ผิวนั้นบริเวณนั้นตึงขึ้น ทำให้ริ้วรอยดูตื้นขึ้น
ตำแหน่งที่นิยมฉีด: หน้าผาก,หางตา
Lift กรอบหน้า – ช่วยยกกระชับใบหน้าไม่ให้หย่อนคล้อย และทำให้กรอบหน้าดูชัดขึ้น
ฉีดใต้วงแขน รักแร้ – ช่วยลดการทำงานของต่อมเหงื่อ(มีส่วนช่วยในการระงับกลิ่นกาย)
บรรเทาอาการปวดไมเกรน – ช่วยทำให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย ช่วยลดอาการปวดได้
ลดอาการตากระตุก – ช่วยทำให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย ลดอาการตากระตุกได้
ก่อนที่จะตัดสินใจฉีดโบท๊อกซ์ แนะนำว่าให้ฉีดกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้และประสบการณ์เท่านั้นนะคะ เพราะก่อนการฉีด จะต้องมีการประเมินถึงขนาดมัดกล้ามเนื้อ / ความลึกของริ้วรอย เพื่อให้สอดคล้องกับปริมาณและชนิดของยาที่ต้องใช้ ทำให้การแสดงสีหน้าดูเป็นธรรมชาติ ไม่เกิดปัญหาในภายหลัง เช่น หน้าไม่แข็งหรือตึงจนเกินไป,ตาตก,หน้าเบี้ยว ไม่ได้รูป หรือ ยิ้มไม่สุดได้ค่ะ
โบท๊อกซ์(BOTOX) มี่กี่ยี่ห้อ มีความเหมือน หรือ แตกต่างกันอย่างไร?
ประเทศ | คุณลักษณะ | |
AESTOX | เกาหลี | โบท็อกซ์เกาหลีพรีเมี่ยม มีความบริสุทธิ์สูงเทียบในกลุ่ม โบท็อกซ์เกาหลี เห็นผลเร็ว |
Dysport | อังกฤษ | ออกฤทธิ์ค่อนข้างไว โบท๊อกกระจายได้ค่อนข้างทั่วถึง คุณภาพสูง ลักษณะโมเลกุลยามีส่วนช่วยลดโอกาสการดื้อยา เหมาะกับการฉีดเพื่อกระชับหน้า ลดต้นแขนหรือน่อง ราคาปานกลางค่อนไปทางสูง |
Xeomin | เยอรมัน | โบท๊อกกระจายได้ค่อนข้างทั่วถึง คุณภาพสูง ให้ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติ ลักษณะโมเลกุลยามีส่วนช่วยลดโอกาสการดื้อยา ใช้ได้ผลดีกับบางเคสที่ดื้อยา ราคาปานกลางค่อนไปทางสูง |
Allergan | อเมริกา | เป็นบริษัทต้นตำหรับเรื่องโบท๊อก มีงานวิจัยจำนวนมากรองรับ ทำให้ยี่ห้อนี้มีความน่าเชื่อถือสูง ให้ผลลัพธ์ดี ราคาค่อนข้างสูง |
หมายเหตุ:
- ในส่วนของ ระยะเวลาการออกฤทธิ์,ระยะเวลาการคงอยู่ของผลลัพธ์,การดื้อยา อาจเป็นผลลัพธ์ที่ขึ้นอยู่กับเฉพาะบุคคลซึ่งแต่ละบุคคลอาจจะมีการตอบสนองที่ไม่เหมือนกัน ซึ่งเกี่ยวข้องกับปริมาณยาและชนิดของยาที่ใช้หรือข้อปฏิบัติตนหลังการฉีดของแต่ละบุคคล
- ควรให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญให้คำแนะนำทุกครั้งในการตัดสินใจเลือกยี่ห้อ เพื่อให้ผลลัพธ์การฉีดดีที่สุด
4 ข้อควรรู้ ก่อนฉีดโบท๊อกซ์
เตรียมตัวอย่างไร ก่อนฉีดโบท็อกซ์
1. ควรงดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 24 ชั่วโมงก่อนการฉีด
2. ไม่ได้อยู่ในภาวะตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร และ ไม่มีโรคประจำตัวร้ายแรง เช่น โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง
3. เพื่อป้องการอาการฟกช้ำ ควรหยุดการใช้ยาแก้ปวด ยาแอสไพริน ยากลุ่มต้านการอักเสบ NSAIDS ได้แก่ Ibruprofen, Naproxen อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนการฉีด
4. งดวิตามินที่ทำให้เลือดหยุดไหลยาก เช่น วิตามินอี น้ำมันปลา น้ำมันอิฟนิ่งพริมโรส อย่างน้อย 2 สัปดาห์
อยู่ได้นานกี่เดือน
ระยะเวลาของผลลัพธ์อยู่ได้ประมาณ 4 -8 เดือน ขึ้นอยู่กับตำแหน่ง โดยปัจจัยที่ส่งผลกระทบหลักมีดังนี้
1. งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แอลกอฮอล์ทำให้ฤทธิ์ของยาลดลง
2. งดออกกำลังกายอย่างหนัก, อบซาวน่า, แช่น้ำอุ่น เนื่องจากความร้อนจะสลายตัวยาให้หมดสภาพเร็วขึ้น
3. ยิ่งมีการใช้งาน กล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดบ่อยๆ จะทำให้ผลลัพธ์สั้นลง
4. หลังฉีดโบท็อกซ์งดนอนราบ เป็นเวลาประมาณ 4 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการไหลของโบท็อกซ์
5. งดการนวดกดจุดบริเวณที่ฉีด เป็นเวลา 1 เดือน
6. หลีกเลี่ยงไม่ให้บริเวณที่ฉีดโดนความร้อนเป็นเวลา 1-2 สัปดาห์ รวมไปถึงงดการทำทรีทเม้นท์ด้วยเครื่อง RF หรือเลเซอร์อย่างน้อย 2 สัปดาห์
หมายเหตุ:
- กรณีฉีดโบท็อกซ์บริเวณกราม หลังฉีดให้เคี้ยวหมากฝรั่ง 2 ข้างเท่าๆกัน โดยการสลับซ้ายขวา เป็นเวลา 30 นาที – 1 ชั่วโมง เพื่อให้ตัวยากระจายเข้ากล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดได้ดียิ่งขึ้น
- หลังฉีดโบท็อกซ์ได้ประมาณ 4 ชั่วโมง สามารถแต่งหน้าได้ตามปกติ
ข้อห้ามสำหรับบุคคลที่ต้องการฉีดโบท๊อกซ์
1. กำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตรอยู่
2. ผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง
3. ผู้ที่มีภาวะ หรือ ป่วย เกี่ยวข้องกับอาการเลือดออกแล้วหยุดยาก
4. ผู้ที่มีอาการแพ้สาร Botulinum
ทำอย่างไรให้ผลลัพธ์หลังฉีดโบท๊อกซ์ยาวนานที่สุด
โดยทั่วไป ระยะเวลาของผลลัพธ์อยู่ได้ประมาณ 4 -8 เดือน ขึ้นอยู่กับตำแหน่ง โดยปัจจัยที่ส่งผลกระทบหลักมีดังนี้
1. งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แอลกอฮอล์ทำให้ฤทธิ์ของยาลดลง
2. งดออกกำลังกายอย่างหนัก, อบซาวน่า, แช่น้ำอุ่น เนื่องจากความร้อนจะสลายตัวยาให้หมดสภาพเร็วขึ้น
3. ยิ่งมีการใช้งาน กล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดบ่อยๆ จะทำให้ผลลัพธ์สั้นลง
4. หลังฉีดโบท็อกซ์งดนอนราบ เป็นเวลาประมาณ 4 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการไหลของโบท็อกซ์
5. งดการนวดกดจุดบริเวณที่ฉีด เป็นเวลา 1 เดือน
6. หลีกเลี่ยงไม่ให้บริเวณที่ฉีดโดนความร้อนเป็นเวลา 1-2 สัปดาห์ รวมไปถึงงดการทำทรีทเม้นท์ด้วยเครื่อง RF หรือเลเซอร์อย่างน้อย 2 สัปดาห์
หมายเหตุ:
- กรณีฉีดโบท็อกซ์บริเวณกราม หลังฉีดให้เคี้ยวหมากฝรั่ง 2 ข้างเท่าๆกัน โดยการสลับซ้ายขวา เป็นเวลา 30 นาที – 1 ชั่วโมง เพื่อให้ตัวยากระจายเข้ากล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดได้ดียิ่งขึ้น
- หลังฉีดโบท็อกซ์ได้ประมาณ 4 ชั่วโมง สามารถแต่งหน้าได้ตามปกติ
โบท๊อกซ์แท้ดูอย่างไร? เราจะมั่นใจได้อย่างไร ?
ที่สุภากาญจน์คลินิก เราการันตีในการใช้ยาแท้ ได้มาตรฐาน ตรวจสอบได้ทุกขวด เพื่อให้คนไข้ได้รับตัวยามาตรฐาน ปลอดภัย ลดโอกาสการดื้อยา และได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดโดยคุณหมอจะเปิดขวด ผสมยาต่อหน้า ไม่เจือจางยา สอนวิธีดูของแท้ และคนไข้สามารถตรวจสอบยาทุกขวดได้ด้วยตนเอง กับบริษัทตัวแทนที่ถูกต้องตามกฎหมายค่ะมั่นใจ ปลอดภัย ภายใต้มาตรฐานสูงสุดที่สุภากาญจน์คลินิกค่ะ วิธีดูโบท็อกซ์ ของแท้
ตัดสินใจฉีดโบท๊อกซ์ที่ไหน ตัดสินใจจากอะไร
การที่เราจะฉีดโบท๊อกซ์กับใครหรือคลินิกไหน เราจะต้องมีความมั่นใจ และสบายใจว่าจะได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการแน่นอน ทางสุภากาญจน์คลินิกมีข้อแนะนำดังนี้ค่ะ
1. ตรวจสอบความน่าเชื่อถือของคลินิก เราสามารถตรวจสอบได้ ดำเนินการโดยแพทย์ โดยเราสามารถนำชื่อคลินิกไปตรวจสอบได้เราจะมั่นใจระดับนึงว่าไม่ใช่คลินิกเถื่อนแน่นอน
2. แพทย์ต้องมีประสบการณ์และความชำนาญที่สุภากาญจน์คลินิกคุณหมอจบด้านนี้มาโดยตรง เราดูแลคุณอย่างดีที่สุดค่ะ
3. ใช้ยาแท้ ต้องใช้ยาและเปิดขวดใหม่ต่อหน้าผู้เข้ารับการบริการทุกครั้ง
4. ดูรีวิวของผู้ที่เคยเข้ามาใช้บริการ หรือเข้าไปสอบถามจากผู้ใช้บริการจริง ดูรีวิวผู้มารับบริการจริงของสุภากาญจน์คลินิกได้ที่นี่ค่ะ >>> link
5. ราคาสมเหตุสมผล
6. มีนัดดูผลและติดตามอาการอย่างใกล้ชิด สุภากาญจน์คลินิกของเรามีความเอาใจใส่คนไข้ทุกคนของคลินิกค่ะ มีการนัดตรวจติดตามประเมินผลหลังการรักษาทุกเคส เพื่อให้ผลลัพธ์ที่พุงพอใจคุณมากที่สุดค่ะ
Copyright © SUPA-KUNN CLINIC. All rights reserved. Unauthorized use and/or duplication of this material without express and written permission from this site’s author and/or owner is strictly prohibited. Excerpts and links may be used, provided that full and clear credit is given to SUPA-KUNN CLINIC with appropriate and specific direction to the original content.